การทำหนังสือเดินทางหาย หรือทำพาสปอร์ตหาย (Passport) เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่หากเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือการดำเนินการให้ถูกต้องและรวดเร็ว บทความนี้จะอธิบายทุกขั้นตอนที่ต้องทำเมื่อทำหนังสือเดินทางหาย ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ พร้อมคำแนะนำที่จำเป็น
พาสปอร์ตหายในต่างประเทศ ต้องทำอย่างไร?
1. ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลใหญ่
หากคุณทำพาสปอร์ตหายในต่างประเทศ ควรรีบติดต่อ สถานเอกอัครราชทูตไทย หรือ สถานกงสุลไทย ที่ใกล้ที่สุด เพื่อดำเนินการขอหนังสือเดินทางฉุกเฉินหรือพาสปอร์ตใหม่
-
ค้นหาสถานทูตไทยใกล้คุณ: https://www.consular.go.th/
-
ตรวจสอบเวลาทำการของสถานทูตก่อนเดินทางไป
- กรอกใบบันทึกประกอบคำร้องขอหนังสือเดินทางทดแทนเล่มเดิมที่สูญหาย
2. ขอหนังสือเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Travel Document: ETD)
หากต้องเดินทางกลับไทยโดยด่วน สามารถขอเอกสาร "หนังสือเดินทางฉุกเฉิน" เพื่อใช้เดินทางกลับประเทศไทยแทนพาสปอร์ตได้ และเมื่อกลับถึงประเทศไทยแล้ว ให้ไปทำพาสปอตเล่มใหม่แทนที่เล่มเก่าที่หายไป เพื่อเป็นการยกเลิกเล่มเก่าและได้รับประโยชน์ในการใช้งานครั้งต่อไป
เอกสารที่ต้องใช้:
-
สำเนาพาสปอร์ต (ถ้ามี)
-
บัตรประชาชนไทยหรือสำเนาทะเบียนบ้าน
-
รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต 2 รูป
-
ค่าธรรมเนียม (ประมาณ 400-600 บาท ขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่ละประเทศ)
ระยะเวลาการดำเนินการ: 1-3 วันทำการ
3. ขอทำหนังสือเดินทางใหม่ในต่างประเทศ
หากคุณอยู่ต่างประเทศและต้องการพาสปอร์ตใหม่ สามารถยื่นคำร้องที่สถานทูตไทยได้
เอกสารที่ต้องใช้:
-
บัตรประชาชนไทยตัวจริง
-
สำเนาทะเบียนบ้าน
-
รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต
-
ค่าธรรมเนียมประมาณ 1,500 บาท
ระยะเวลาดำเนินการ: 4-6 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับประเทศที่ยื่นคำร้อง)
4. ติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอข้อมูลหรือทำเรื่องเคลม
ในกรณีที่ได้ทำประกันการเดินทางไว้ สามารถติดต่อบริษัทประกันที่ท่านทำไว้เพื่อแจ้งเหตุการณ์ที่พาสปอร์ตสูญหายได้ โดยบริษัทประกันบางแห่งอาจมีความคุ้มครองในกรณีที่หนังสือเดินทางหาย หรือสูญเสียในระหว่างการเดินทาง ตามเอกสารสัญญาที่ระบุไว้ ซึ่งอาจช่วยให้ได้รับการชดเชยหรือการช่วยเหลือในการดำเนินการขอหนังสือเดินทางใหม่ ควรตรวจสอบรายละเอียดของกรมธรรม์และเงื่อนไขการคุ้มครองอย่างรอบคอบเพื่อให้ทราบถึงข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขั้นตอนในการแจ้งเหตุการณ์และการขอรับความช่วยเหลือจากบริษัทประกันอย่างถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อสิทธิประโยชน์ของตัวเอง
พาสปอร์ตหายในประเทศไทย ต้องทำอย่างไร?
1. ไม่ต้องแจ้งความ สามารถขอทำใหม่ได้เลย
ปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องแจ้งความ หากทำพาสปอร์ตหายในไทย สามารถขอทำเล่มใหม่ที่กรมการกงสุลหรือสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศได้ทันที
2. เอกสารที่ต้องใช้ในการขอทำพาสปอร์ตใหม่
-
บัตรประชาชนตัวจริง (ต้องไม่หมดอายุ)
-
ค่าธรรมเนียมทำพาสปอร์ต 1,000 บาท (เล่มปกติ) หรือ 3,000 บาท (เล่มด่วน)
ระยะเวลาดำเนินการ:
-
เล่มปกติ: 3 วันทำการ
-
เล่มด่วน: รับเล่มภายในวันเดียว
-
จัดส่งทางไปรษณีย์: 5-7 วันทำการ (ปัจจุบัน เม.ย. 2568 มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม 50 บาท)
3. สถานที่ทำพาสปอร์ตในประเทศไทย
สามารถทำพาสปอร์ตใหม่ได้ที่ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ หรือสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศ ตรวจสอบที่ตั้งได้ที่: https://www.consular.go.th/
กรณีพาสปอร์ตสูญหาย แต่ยังมีวีซ่า หรือวีซ่าเชงเก้นอยู่ ต้องทำอย่างไร?
หากพาสปอร์ตสูญหายแต่ยังมีวีซ่าติดตัวอยู่ อาจต้องดำเนินการขอวีซ่าใหม่กับประเทศปลายทาง ดังนี้:
-
ขอทำพาสปอร์ตใหม่ ที่สถานเอกอัครราชทูต หรือ สถานกงศุลไทยในต่างประเทศ หรือ สำนักงานหนังสือเดินทาง
-
ติดต่อสถานทูตของประเทศที่ออกวีซ่าให้คุณ เพื่อตรวจสอบว่าจำเป็นต้องขอวีซ่าใหม่หรือไม่
-
ในบางกรณี สถานทูตของประเทศปลายทางอาจสามารถออกเอกสารยืนยันวีซ่าเก่าให้ได้
ผลของการไม่แจ้งความพาสปอร์ตหาย
Passport หายต้องแจ้งความไหม? แม้ว่าจะไม่ต้องแจ้งความเพื่อลดขั้นตอนการไปสถานีตำรวจให้ยุ่งยากแล้ว แต่การไม่แจ้งความพาสปอร์ตหายไว้เป็นหลักฐาน ก็อาจมีความเสี่ยงที่ต้องยอมรับไว้ตามหนังสือบันทึกคำร้อง การไม่แจ้งความอาจเป็นโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีนำหนังสือเดินทางไปใช้งานทางทุจริตผิดกฎหมายและอาจทำให้ได้รับความเสียหาย โดยจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำหายที่ไทยหรือต่างประเทศ หรือทำเล่มที่หมดอายุหาย ก็ควรแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะตามมา
การป้องกันพาสปอร์ตหาย
-
ทำสำเนาพาสปอร์ต ทั้งในรูปแบบกระดาษและไฟล์ดิจิทัล เช่นบันทึกไว้ในคลาวด์ไดรฟ์ ส่งสำรองไว้ในอีเมล
-
เก็บพาสปอร์ตในที่ปลอดภัย เช่น กระเป๋าที่ปิดล็อกได้ สำคัญควรพกติดตัวและดูแลอยู่ตลอดเวลา เช็กทุกครั้งที่หยิบใช้ เก็บที่เดิมทุกครั้งเมื่อใช้เสร็จ
- ใช้พาสปอร์ตปกพลาสติกกันน้ำ เพื่อลดโอกาสชำรุดหรือสูญหาย
-
ใช้อุปกรณ์ติดตาม เช่น AirTag, SmartTag ที่สามารถติดตามสิ่งของได้ทุกที่ โดยที่อุปกรณ์ไม่มีอินเทอน์เน็ตผ่าน Find My
- ทำให้เบอร์เดิมโทรติดต่อได้ เพื่อให้ติดต่อสถานทูตได้สะดวกขึ้น สามารถเปิดโรมมิ่งเบอร์เดิม และใช้คู่กับ eSIM Vacay ได้ โดยให้เบอร์เดิมใช้สำหรับสายโทร SMS และให้ใช้อินเทอร์เน็ต ข้อมูลมือถือ หรือข้อมูลเซลลูลาร์ ผ่าน eSIM Vacay เพื่อประหยัดค่าเน็ตโรมมิ่ง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพาสปอร์ตหาย
พาสปอร์ตหาย มีคนเก็บได้ แล้วนำไปใช้ มีความผิดหรือไม่?
หากมีคนนำพาสปอร์ตที่ไม่ใช่ของตนไปใช้ ถือเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 ซึ่งอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ต้องทำพาสปอร์ตก่อนเดินทางกี่วัน?
แนะนำให้ทำพาสปอร์ต ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันปัญหาความล่าช้า
พาสปอร์ตต้องมีอายุเหลือกี่วันก่อนเดินทาง?
โดยทั่วไปต้องมีอายุ เหลืออย่างน้อย 6 เดือน ก่อนวันเดินทาง มิฉะนั้นอาจถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ
พาสปอร์ตขาดแล้ว ต้องทำใหม่ไหม?
หากพาสปอร์ตหมดอายุ หรือไม่หมดอายุ ให้นำเล่มดังกล่าง ไปดำเนินการขอทำเล่มใหม่ที่กรมการกงสุล หรือสำนักงานหนังสือเดินทางทั่วประเทศ
ไปต่างประเทศใช้เน็ตอะไรดี?
eSIM Vacay พร้อมให้บริการทุกที่ทั่วโลกกว่า 190 ประเทศ ใช้งานบนเครือข่ายชั้นนำในประเทศปลายทาง เชื่อมต่อทุกที่ทุกเวลา และยังสะดวกสบาย ไม่ต้องหาซื้อซิมการ์ดตามสนามบิน ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องถอดเปลี่ยนให้ยุ่งยาก และไม่ต้องรอส่ง สั่งซื้อออนไลน์และพร้อมใช้งานทันที พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง โรมมิ่งไม่รั่ว พร้อมแพ็กเกจมากมายตรงใจคุณเช่น เน็ตเต็มสปีด เน็ตไม่จำกัด 100% เน็ตรายวัน eSIM ท้องถิ่น ใช้ระยะสั้น - ยาว ต้องการใช้งานโซเชี่ยล ต้องการใช้แอปธนาคารก็ไม่มีปัญหา และยังสามารถใช้งานคู่กับเบอร์เดิมได้ eSIM คืออะไร?, ใช้เบอร์ไทยในต่างประเทศ คู่กับ eSIM Vacay
สนใจสั่งซื้อ eSIM Vacay คลิก
สรุป
หากทำพาสปอร์ตหาย ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ควรรีบดำเนินการอย่างถูกต้องโดยติดต่อสถานทูตหรือสำนักงานหนังสือเดินทางเพื่อขอเอกสารใหม่ พร้อมเตรียมเอกสารให้ครบ เช่น บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และรูปถ่าย โดยในกรณีที่อยู่ต่างประเทศอาจต้องขอหนังสือเดินทางฉุกเฉิน (ETD) เพื่อใช้เดินทางกลับไทย และควรแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อป้องกันการถูกนำพาสปอร์ตไปใช้ในทางทุจริต ทั้งนี้การสำรองข้อมูลพาสปอร์ตและใช้อุปกรณ์ติดตาม เช่น AirTag รวมถึงการเปิดโรมมิ่งเบอร์เดิมไว้ใช้ควบคู่กับ eSIM สำหรับเน็ต ก็เป็นวิธีที่ช่วยลดผลกระทบและอำนวยความสะดวกเมื่อต้องเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน