Wi-Fi Calling คืออะไร? วิธีการใช้งานและค่าบริการที่คุณควรรู้!

Wi-Fi Calling คืออะไร? วิธีการใช้งานและค่าบริการที่คุณควรรู้!
กำลังโหลด เข้าชม 167 ครั้ง
Wi-Fi Calling คืออะไร? วิธีการใช้งานและค่าบริการที่คุณควรรู้!

Wi-Fi Calling คืออะไร

Wi-Fi Calling (การโทรไวไฟ) หรือบริการ VoWi-Fi (Voice over Wi-Fi) เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโทรออกและรับสายผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi ฮอตสปอตมือถือ Hotspot หรือ Pocket Wi-Fi ที่เช่ามา แทนการใช้สัญญาณเครือข่ายมือถือ โดยเหมาะสำหรับสถานที่ที่สัญญาณมือถือไม่ดีหรือไม่มีสัญญาณ เช่น ในอาคารที่มีผนังหนา อาคาร-ตึกสูง หรืออาคารใต้ดิน

Wi-Fi Calling ไม่จำเป็นต้องใช้แค่ต่างประเทศ?

แน่นอน! สามารถตั้งค่า Wi-Fi Calling ของซิมที่ต้องการ เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้ในประเทศไทย เพื่อการใช้งานการโทรที่ไม่สะดุดในพื้นที่แออัดหรือสัญญาณมือถือไม่ดี แต่ฟีเจอร์นี้อาจจะต้องตั้งค่าเพิ่มเติมโดยการให้รูปแบบเครือข่ายของซิม เลือกใช้งาน Wi-Fi ก่อนเสมอ (ค่าเริ่มต้นจะเลือกใช้งานจากเครือข่ายมือถือ คือการใช้สัญญาณของซิมก่อนนั่นเอง) ตั้งค่ารูปแบบเครือข่ายที่ใช้ก่อน เพื่อให้ซิมใช้การโทรจากไวไฟก่อนเป็นอันดับแรก หากไม่มีสัญญาณไวไฟจะใช้สัญญาณมือถือเป็นอันดับสองรองลงมา

ส่วนการใช้งาน Wi-Fi Calling ที่ต่างประเทศนั้นเพื่อการประหยัดค่าบริการโรมมิ่ง เมื่อโทรออกหรือรับสายในต่างประเทศนั้นจะมีค่าบริการใช้งานที่สูง ฟีเจอร์นี้สามารถทำให้การโทรออกหรือรับสายในต่างประเทศมีค่าบริการที่ถูกลง และคิดค่าบริการตามแพ็กเกจเดิมของซิมที่เปิดใช้งานบริการ VoWi-Fi

การใช้งาน Wi-Fi Calling

การใช้ Wi-Fi Calling อัพเดต ปี 2567 ปัจจุบันผู้ให้บริการมือถือได้จำกัดการใช้งานฟีเจอร์นี้ (จากที่เมื่อก่อนเพียงตั้งค่าในมือถือให้ซิมใช้งาน Wi-Fi Calling และพร้อมใช้งานได้เลย) กลายเป็น สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งาน Wi-Fi Calling หรือ การโทรผ่านไวไฟ จำเป็นต้องเปิดบริการจากค่ายมือถือที่ใช้งานก่อน โดยกดรหัสเปิดบริการ VoWiFi (Voice over Wi-Fi) และตั้งค่า Wi-Fi Calling ในตั้งค่ามือถือภายหลัง

ขั้นตอนการเปิดใช้งาน Wi-Fi Calling หรือ VoWi-Fi

1. เปิดบริการ VoWi-Fi กับผู้ให้บริการเครือข่าย ขณะอยู่ที่ประเทศไทย โดยกดรหัส

  • AIS
    • เปิดบริการ: กด *399*1#
    • ปิดบริการ: กด *399*2#
  • True 
    • เปิดบริการ: กด *440*1#
    • ปิดบริการ: กด *440*2#
  • Dtac
    • เปิดบริการ: กด *444*41#
    • ปิดบริการ: กด *444*40# (ถ้าปิดไม่ได้ต้องติดต่อศูนย์บริการ) 

ต้องเปิดบริการ VoWi-Fi ขณะอยู่ที่ไทยเท่านั้น! และได้รับข้อความเปิดใช้งานบริการ Wi-Fi Calling สำเร็จ หากต้องการใช้งานขณะอยู่ต่างประเทศ ต้องเปิดใช้งานบริการและตั้งโรมมิ่ง จากนั้นจึงกดรหัสเปิดใช้บริการได้ หรือสามารถติดต่อเพื่อเปิดใช้งานบริการ VoWi-Fi กับช่องทางติดต่อของเครือข่ายโดยตรง

2. เปิดใช้งานฟีเจอร์ Wi-Fi Calling ในมือถือ

  • iPhone: ไปที่ Settings (การตั้งค่า) > เลื่อนลงไปหาเมนู Phone (โทรศัพท์) > Wi-Fi Calling (การโทรผ่าน Wi-Fi) และเปิดใช้งาน Wi-Fi Calling on iPhone (การโทรผ่าน Wi-Fi บน iPhone)
  • Android (samsung): ไปที่ Settings (การตั้งค่า) > Network & Internet (การเชื่อมต่อและอินเทอร์เน็ต) > Mobile network (เครือข่ายมือถือ) > Advanced (ขั้นสูง) > Wi-Fi Calling (การโทรผ่าน Wi-Fi) และเปิดใช้งาน Wi-Fi Calling > เลือกเบอร์ที่ต้องการตั้ง Wi-Fi Calling (หากมีสองซิม)
  • Android รุ่นอื่นๆ: ไปที่ Settings (การตั้งค่า) > SIM card & Mobile network (ซิมการ์ดและเครือข่ายมือถือ) > แตะเบอร์โทรที่ต้องการ > เลื่อนหาและเปิดโทรโดยใช้ Wi-Fi
  • วิธีลัด! สามารถค้นหา Wi-Fi Calling หรือ การโทรผ่าน Wi-Fi บนการตั้งค่าได้โดยง่าย

3. การใช้งาน

  • ขณะเดินทางอยู่ต่างประเทศและต้องการใช้โทรเบอร์ หรือรับสาย ควรเปิดโหมดเครื่องบินก่อน เพื่อเลี่ยงการใช้สัญญาณมือถือ และให้ซิมขึ้นใช้งาน Wi-Fi Calling แทน
  • ใช้ Wi-Fi Calling สามารถเชื่อมได้ทั้ง Wi-Fi เราท์เตอร์ ฮอตสปอตมือถือ Mobile Hotspot หรือ Pocket Wi-Fi ที่เช่ามาเพื่อใช้บริการโทร/รับสาย
  • สังเกตสัญลักษณ์ Wi-Fi Calling พร้อมใช้งาน ในศูนย์การแจ้งเตือนหรือศูนย์ควบคุม ดังภาพ สังเกตว่า ไวไฟคอลลิ่งพร้อมใช้งานหรือไม่ wificalling ใช้งานยังไง ตั้งค่า
  • ค่าบริการโทรจะคิดตามอัตราแพ็กเกจปัจจุบันของซิมที่เปิดบริการ VoWi-Fi (คิดค่าบริการเหมือนโทรในไทย)
  • เมื่อเรียนรู้การใช้งานตามขั้นแล้ว จะพร้อมใช้งาน Wi-Fi calling สามารถโทรหรือรับสายได้เลย

ค่าบริการการโทรและรับสายผ่าน Wi-Fi Calling

  • ค่าบริการโทร ผ่าน Wi-Fi Calling จะคิดตามอัตราแพ็กเกจปัจจุบันของซิมที่เปิดบริการ ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมจากการใช้งานฟีเจอร์ Wi-Fi Calling (คิดค่าบริการเหมือนโทรในไทย) ทำให้คุณสามารถโทรออกและรับสายได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
  • ค่าบริการรับสาย ผ่าน Wi-Fi Calling จะไม่คิดค่าบริการรับสาย

ข้อควรระวัง!

  1. อย่ากดรหัสปิดบริการ Wi-Fi Calling ขณะอยู่ต่างประเทศ: เมื่อคุณอยู่ในต่างประเทศ ควรหลีกเลี่ยงการกดปิด Wi-Fi Calling หรือกดรหัสปิดบริการ เพราะถ้าปิดไปแล้ว จะต้องเปิดบริการโรมมิ่งผ่านแอปฯของผู้ให้บริการเครือข่าย และตั้งค่าเปิดโรมมิ่งในมือถือ เพื่อให้สามารถกดรหัสเปิดบริการใช้งาน Wi-Fi Calling ได้อีกครั้ง
  2. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ Wi-Fi: เพื่อให้การโทรผ่าน Wi-Fi มีคุณภาพที่ดีที่สุด ควรเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่มีความเสถียรและรวดเร็ว และเชื่อมต่อไวไฟที่มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัย (อันตรายจากการใช้ Wi-Fi สาธารณะ)
  3. หากมีข้อสงสัยอื่นในการเปิดบริการใช้งาน Wi-Fi Calling หรือต้องการเปิดใช้งานบริการ VoWi-Fi หรือ Wi-Fi Calling สามารถติดต่อค่ายมือถือได้โดยตรง ดังนี้ AIS, True, Dtac

ทำไมต้องเลือกใช้ Wi-Fi Calling?

Wi-Fi Calling เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร และประหยัดค่าบริการโทร/รับสายขณะใช้งานที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่สัญญาณมือถือไม่ดี ฟีเจอร์นี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการโทร และทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

ความแตกต่างระหว่าง Wi-Fi Calling กับ Roaming

Wi-Fi Calling (การโทรผ่าน Wi-Fi) เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโทรออกและรับสายผ่านการเชื่อมต่อ Wi-Fi แทนการใช้สัญญาณเครือข่ายมือถือ 

ข้อดี

  • ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม ค่าบริการโทรจะถูกคิดตามอัตราแพ็กเกจปัจจุบันของซิมที่ใช้งาน
  • ใช้งานได้แม้ในพื้นที่ที่สัญญาณมือถือไม่ดี
  • คุณภาพเสียงชัดเจนเมื่อเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ที่เสถียร

ข้อเสีย

  • ต้องมีการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่เสถียร
  • ไม่สามารถใช้งานได้ในกรณีที่ไม่มี Wi-Fi

Roaming (การใช้งานโรมมิ่ง) เป็นการใช้สัญญาณเครือข่ายมือถือในต่างประเทศที่ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศต้นทางได้ทำสัญญาไว้กับผู้ให้บริการในประเทศปลายทาง ทำให้ผู้ใช้สามารถโทรออกและรับสาย ใช้อินเทอร์เน็ต และส่งข้อความได้ขณะเดินทางในต่างประเทศ

ข้อดี

  • สามารถใช้งานมือถือได้เหมือนกับอยู่ในประเทศบ้านเกิด
  • คุณภาพเสียงและการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น เนื่องจากใช้สัญญาณเครือข่ายมือถือในท้องถิ่น

ข้อเสีย

  • ค่าบริการโรมมิ่งสูง ทั้งการโทรออกภายในประเทศปลายทางและการรับสายจากประเทศไทย
  • ต้องเปิดบริการโรมมิ่งจึงจะสามารถใช้งานได้

ดังนั้น การใช้ Wi-Fi Calling และ Roaming มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย Wi-Fi Calling เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและใช้งานในพื้นที่ที่มี Wi-Fi ส่วน Roaming เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานมือถือเหมือนอยู่ในประเทศต้นทาง แต่ต้องยอมรับค่าบริการที่สูงขึ้นอย่างมาก

 

แนะนำซิมต่างประเทศแบบ eSIM ไม่ต้องรอส่ง ไม่ต้องเปิดโรมมิ่ง ไม่ต้องลงทะเบียนซิม ใช้งานได้เต็มที่ไม่มีสัญญาผูกมัด จ่ายเท่าที่เห็นไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม มีแพ็กเกจแบบเน็ตไม่อั้นไม่จำกัด มีให้เลือกกว่า 190 ประเทศทั่วโลก พร้อมสั่งซื้อและใช้งานได้ตลอด 24ชม. ที่ esim.vacay.asia

 

สรุป Wi-Fi Calling คืออะไร?

Wi-Fi Calling เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ใช้มือถือในยุคปัจจุบัน ช่วยให้การสื่อสารสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ในที่ทำงานหรือเดินทางไปต่างประเทศ ด้วยการเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ คุณจะไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารที่สำคัญ แม้กระทั่งบางค่ายรองรับการส่ง SMS จะทำได้เหมือนกับใช้งานสัญญาณมือถือทั่วไป

หากคุณยังไม่เคยลองใช้งาน Wi-Fi Calling ลองเปิดใช้งานวันนี้เพื่อสัมผัสประสบการณ์การโทรที่ราบรื่นและไม่มีข้อจำกัดในการเชื่อมต่อ!

ติดต่อเรา

บริการลูกค้า

[email protected]
จันทร์ - ศุกร์ 10:00 น. - 19:00 น.

สอบถามทั่วไป

[email protected]
จันทร์ - ศุกร์ 10:00 น. - 19:00 น.

Line @

@esim.vacay
ทุกวัน เวลา 10:00 น. - 24:00 น.

WeChat

VacayTh
จันทร์ - ศุกร์ 10:00 น. - 19:00 น.

ติดต่อ Vacay

02 460 9293
จันทร์ - ศุกร์ 10:00 น. - 19:00 น.
สงวนลิขสิทธิ์ © 2567 บริษัท เวเคย์แทรเวิล จำกัด