ญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกการใช้ลายเซ็น ต้องกรอกรหัส PIN ทุกครั้งในการรูดบัตรเครดิต เริ่มเมษายน 2025!
ใครที่วางแผนเดินทางไปญี่ปุ่นในปี 2025 ต้องรู้! ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2025 เป็นต้นไป สมาคมบัตรเครดิตญี่ปุ่น (Japan Credit Card Association - JCCA) ได้กำหนดให้ ทุกธุรกรรมที่ใช้บัตรเครดิตแบบ IC และมียอดเกิน 10,000 เยน ต้องใส่รหัส PIN ทุกครั้ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บัตรเครดิตและป้องกันการฉ้อโกง
การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับนักท่องเที่ยวทุกคนที่ใช้บัตรเครดิตในญี่ปุ่น หากคุณไม่เคยใช้ PIN หรือจำไม่ได้ ควรติดต่อธนาคารเจ้าของบัตร เพื่อขอรหัส PIN หรือเปิดใช้งานก่อนเดินทาง เพื่อป้องกันปัญหาในการใช้จ่าย
ทำไมญี่ปุ่นถึงบังคับใช้รหัส PIN แทนลายเซ็น?
เดิมที การใช้บัตรเครดิตในญี่ปุ่นอาจมีการใช้ลายเซ็นแทนการกรอกรหัส PIN ในบางกรณี แต่ JCCA ได้ตัดสินใจยกเลิกฟังก์ชันข้ามการกรอกรหัส PIN (PIN Bypass) ภายในเดือนมีนาคม 2025 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บัตร เนื่องจากการใช้ PIN นั้นลดโอกาสในการถูกขโมยข้อมูลและการใช้บัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อดีของระบบใหม่นี้
- ลดความเสี่ยงในการถูกขโมยข้อมูลหรือปลอมแปลงลายเซ็น
- ป้องกันการใช้บัตรโดยไม่ได้รับอนุญาต
- เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ถือบัตรทุกคน
รหัส PIN มี 3 แบบต่างกันอย่างไร
รหัส PIN ต่างกันมีหน้าที่ป้องกันที่ต่างกัน เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน
- Secure PIN 6 หลัก: โดยส่วนใหญ่จะใช้ในการทำธุรกรรมผ่านแอป Mobile Banking เช่นเข้าสู่แอป หรือสแกน โอนเงิน จ่ายเงินต่างๆ และใช้ยืนยันกับทางธนาคารในบางธุรกรรม
- รหัสกดเงิน 6 หลัก: ใช้กับบัตรเดบิต หรือบางธนาคารจะใช้ PIN เดียวกันกับ Secure PIN
- รหัสกดเงิน 4 หลัก: ใช้กับบัตรเครดิต หรือบางธนาคารจะใช้ PIN เดียวกันกับ Secure PIN
*โปรดทราบว่าแต่ละธนาคารมีวิธีตั้ง PIN และใช้งาน PIN ที่แตกต่างกัน โปรดตรวจสอบกับธนาคารเจ้าของบัตรด้วยตัวเอง
บัตรเครดิตไทยแต่ละธนาคารมีวิธีตั้ง PIN ที่แตกต่างกัน
กระทู้ Pantip มีนาคม 2025 ได้สรุปข้อมูลไว้ดังนี้:
(*โปรดตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุดของธนาคารเจ้าของบัตรด้วยตัวคุณเอง ข้อมูลส่วนหนึ่งในต่อไปนี้เป็นเพียงข้อมูลที่ได้มาจากกระทู้ของผู้ใช้งาน Pantip ณ มีนาคม 2568)
- CardX (SCB เดิม) → ไม่ได้รับแจ้งเรื่องการใช้ PIN หากต้องการ PIN ต้อง ออกบัตรใหม่ เท่านั้น
- Krungsri (กรุงศรี) → ใช้ PIN เดียวกับรหัสกดเงินสด สามารถ ตั้งใหม่ในแอป UCHOOSE ได้
- KTC → ใช้ PIN เดียวกับรหัสกดเงินสด ตั้ง PIN 4 หลักใหม่ในแอป KTC ได้เอง
- KBank (กสิกรไทย) → ต้อง ออกรหัสใหม่ มีค่าธรรมเนียม 100 บาท และธนาคารจะส่ง PIN ทาง EMS
- Aeon → มีแต่ PIN 6 หลัก ไม่มี 4 หลัก ใช้ไม่ได้ แนะนำให้รูดไม่เกิน ¥10,000
- YouTrip → สามารถเปลี่ยน PIN ของบัตรได้ในแอป โดยไปที่ ตั้งค่า > เปลี่ยน Card PIN > กรอกเลขบัตรประชาชน > ยืนยัน > รอรับข้อความทางอีเมลที่ลงทะเบียน > ไปที่จดหมายอีเมลที่ได้รับ > กดปุ่มหรือลิงก์ เปลี่ยน Card PIN > จะนำทางกลับไปยังแอป YouTrip > ตั้งรหัส PIN 4 หลัก > ยืนยัน
แนะนำ: ก่อนเดินทางควรตรวจสอบกับธนาคารเจ้าของบัตร ว่าบัตรของคุณสามารถใช้ PIN ได้หรือไม่ และมีค่าธรรมเนียมในการตั้ง PIN หรือเปล่า หากจำ PIN ไม่ได้ ให้รีบขอใหม่ก่อนเดินทางกับธนาคาร หรือบางบัตรสามารถตั้งได้ในแอป
วิธีใช้บัตรเครดิตแบบ IC ในญี่ปุ่นอย่างถูกต้อง
เพื่อให้การใช้งานบัตรเครดิตราบรื่น ผู้ถือบัตรควร ปฏิบัติตามคำแนะนำของเครื่องอ่านบัตร ดังนี้:
- ใส่บัตรเข้าไปในเครื่องอ่านบัตร ซึ่งต้องเป็นบัตรที่รองรับระบบ IC Chip
- กรอกรหัส PIN เพื่อยืนยันตัวตน (PIN เดียวกับที่ใช้กดเงินสดจาก ATM)
- ทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้น หากรหัสถูกต้อง ธุรกรรมจะผ่านโดยอัตโนมัติ
ข้อควรระวัง
- หากคุณไม่เคยใช้ PIN มาก่อน อาจพบปัญหาทำธุรกรรมไม่ผ่าน
- แนะนำให้ลองใช้ PIN กับ ATM หรือร้านค้าในไทยก่อนเดินทาง
- หาก PIN ไม่ถูกต้องหลายครั้งติดกัน บัตรอาจถูกล็อก
ทำอย่างไรถ้าจำรหัส PIN ไม่ได้?
โดยปกติสามารถ PIN สำหรับใช้จ่ายสามารถตั้งใหม่ได้ในแอปธนาคาร หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับ PIN ของบัตร ควรติดต่อ ธนาคารเจ้าของบัตรล่วงหน้า เพื่อขอรหัสใหม่ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น วิธีการตั้งหรือขอรหัสใหม่แตกต่างกันไปในแต่ละธนาคาร ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับ PIN ก่อนเดินทาง
ไม่มี PIN ต้องทำยังไง?
หากคุณไม่แน่ใจว่าบัตรของคุณมี PIN หรือจำไม่ได้ ให้รีบ ติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรล่วงหน้า เพื่อขอรหัสใหม่ วิธีการขอ PIN และค่าธรรมเนียมอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคาร
Tips ก่อนเดินทาง:
- ลองกดเงินสดจาก ATM ด้วยบัตรเครดิต เพื่อตรวจสอบว่าจำ PIN ได้หรือไม่
- หากไม่มี PIN แนะนำให้ใช้บัตรที่รองรับการตั้ง PIN หรือเตรียมบัตรสำรองไปด้วย
- ตรวจสอบว่าวงเงินและบัตรของคุณสามารถใช้ในญี่ปุ่นได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PIN และความปลอดภัยของบัตรเครดิตในญี่ปุ่น
- 89% ของผู้ถือบัตรสามารถจำ PIN ของตนเองได้
- 87% ของผู้ถือบัตรเห็นว่าการใช้ PIN มีความปลอดภัยมากกว่าลายเซ็น
- บัตรเครดิตแบบ IC ปลอดภัยกว่าบัตรแถบแม่เหล็ก เพราะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วย PIN
เดินทางต่างประเทศเรื่องเน็ตต้อง eSIM Vacay เท่านั้น
ข้อดีของ eSIM Vacay:
- สะดวกและรวดเร็ว: ไม่ต้องเสียเวลาหาซื้อซิมการ์ดท้องถิ่น เพียงแค่สั่งซื้อออนไลน์ สแกน QR code ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันที
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตให้เลือกหลากหลายแบบ แพ็กเกจเน็ตตรงใจ ในราคาที่คุ้มค่า โรมมิ่งไม่รั่ว
- ใช้งานได้ทั่วโลก: รองรับการใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก กว่า 190 ประเทศ ทำให้คุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่
- ใช้คู่กับซิมเบอร์เดิม: สามารถใช้ eSIM ควบคู่กับซิมเดิมได้ ทำให้ไม่พลาดการติดต่อจากเบอร์เดิม
- ติดตั้งง่าย: การติดตั้ง eSIM ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ตามวิธีการใช้งาน ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค
- ซัพพอร์ตตลอด 24 ชม.: ติดต่อสอบถาม พบปัญหาการใช้งาน อุ่นใจ บริการตลอด 24 ชม. ไม่เว้นวันหยุด
ซิมญี่ปุ่น ใช้เน็ตไม่อั้น ไม่จำกัด บนเครือข่าย KDDI หรือ SoftBank ก็เลือกเองได้ตามใจ ราคาสบายกระเป๋า ได้เน็ตแรงๆคุณภาพเยี่ยม ครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น ใช้งานไม่สะดุด
คลิกสั่งซื้อเลย
สรุป
ตั้งแต่ 1 เมษายน 2025 เป็นต้นไป การรูดบัตรเครดิตเกิน 10,000 เยน ในญี่ปุ่นจะต้องใช้ PIN เท่านั้น ลายเซ็นไม่สามารถใช้แทนได้ ดังนั้นควรตรวจสอบกับธนาคารว่า PIN ของคุณใช้งานได้หรือไม่ และหากไม่มีหรือจำไม่ได้ ต้องขอรหัสใหม่ก่อนเดินทาง เพื่อให้การใช้จ่ายในญี่ปุ่นราบรื่น!
